เช็ก 6 สัญญาณเตือนแพ้ครีมกันแดด และส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการแพ้
แพ้ครีมกันแดด ทำอย่างไร? ก่อนจะหาตัวที่ใช่ ผมว่าหลายๆ คนคงเคยเจอประสบการณ์แย่ๆ กับครีมกันแดดมาก่อน หนึ่งในนั้นคือ “การแพ้ครีมกันแดด” ที่เกิดจากการเลือกใช้ครีมกันแดดที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของคุณและสารต่างๆ ในครีมกันแดด ที่ทำให้ผิวระคายเคือง วันนี้พวกเราถือโอกาสพาสาวๆ ค้นพบ 6 สัญญาณเตือนการแพ้ครีมกันแดดและส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการแพ้ ~
6 ส่วนผสมในครีมกันแดดที่เสี่ยงต่อการแพ้
อากาศร้อนๆ แบบนี้ “ครีมกันแดด” คือไอเทมที่ขาดไม่ได้ แต่ฉันอยากให้เพื่อนพลิกด้านหลังขวดและตรวจสอบว่าครีมกันแดดที่พวกเขาใช้มีส่วนผสมเหล่านี้หรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและทำให้เกิดการแพ้ครีมกันแดดได้
- แอลกอฮอล์ : แอลกอฮอล์ช่วยให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยผลักส่วนผสมต่างๆให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความมันบนผิวได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนที่มีผิวแห้งและแพ้ง่าย ความรู้สึกระคายเคืองต่อผิวหนังและปัญหาสิวอาจตามมา
- พาราเบน : พาราเบนเป็นสารกันบูดที่มักเติมลงในเครื่องสำอางและการดูแลผิวเพื่อยืดอายุของผลิตภัณฑ์ เมื่อร่างกายดูดซึมสารนี้อย่างต่อเนื่องและเป็นเวลานานอาจรบกวนการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ได้
- ซิลิโคน : ซิลิโคนในสารกันแดดช่วยให้เนื้อสัมผัสนุ่มเนียน เกลี่ยง่าย และยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันซิลิโคนก็เป็นสาเหตุของอาการแพ้และการอุดตันเช่นกัน ส่วนใหญ่บนฉลากผลิตภัณฑ์คำว่าซิลิโคนไม่ได้ระบุโดยตรงแต่กลับระบุด้วยคำอื่นแทน คุณสามารถจดจำสารซิลิโคนได้อย่างง่ายดายจากคำที่ลงท้ายด้วย -cone, -conol, -silane และ -oxane
- น้ำหอม (Parfum/Parfum) : สำหรับครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม โดยปกติจะระบุไว้บนฉลากว่า Parfum หรือ Parfum แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นน้ำหอมประเภทใด และสกัดมาจากอะไร? นี่คือสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหนัง
- น้ำมันหอมระเหย : น้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติที่ช่วยให้มีกลิ่นหอมคล้ายกับน้ำหอม แต่มันแตกต่างตรงที่น้ำมันหอมระเหยทำมาจากการผสมน้ำมันหอมระเหยกับแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น
- Octyl Methoxycinnamate : เป็นสารกันแดดแบบเคมีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสง UVB แต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเกิดการสะสมใต้ผิวหนังได้ จนถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและอาจเป็นอันตรายต่อตับได้ โดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมประเภทนี้
ใช้ปุ๊บ สิวขึ้นปั๊บ !
หากใครเพิ่งเริ่มใช้งาน หรือคุณเพิ่งเปลี่ยนครีมกันแดด? แต่หลังจากใช้ไปประมาณ 1-2 วัน สังเกตว่าสิวขึ้นทันที หรือสิวเกิดขึ้นในบริเวณที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเกิดจากการแพ้ครีมกันแดด หรือแพ้สารบางชนิดที่มีอยู่ในครีมกันแดด แนะนำให้หยุดใช้ทันที แต่ถ้าหยุดใช้อาการก็ยังไม่ดีขึ้น หรือฉันมีสิวมากขึ้น ควรไปพบแพทย์ทันที
รู้สึกแสบร้อนผิว
ในบางรายอาจเกิดอาการแพ้ครีมกันแดดทันทีหลังใช้ ได้แก่ รู้สึกแสบร้อนบนใบหน้าหลังทาครีมกันแดด ซึ่งอาจมีอาการคัน ผื่น หรือรอยแดงของผิวหนังร่วมด้วย อาจเกิดจากการเลือกครีมกันแดดที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว หรืออาจเกิดจากส่วนผสมของครีมกันแดดบางชนิดที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น แอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม เป็นต้น
ผิวแห้งลอก
สัญญาณอีกอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณแพ้ครีมกันแดดคือ “อาการผิวแห้งลอก” หลังจากใช้ครีมกันแดด ผิวหน้าจะเริ่มแห้ง ขาดน้ำ เป็นขุยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจเกิดจากการใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ดูดซับความชื้นจากผิว ทำให้ผิวแห้งและเป็นขุย
มีผื่นขึ้นเป็นปื้น
สำหรับผู้ที่แพ้ครีมกันแดด อาการเบื้องต้นอาจมีผื่นขึ้นได้ ผิวหนังบวมแดง รู้สึกเหมือนมีอาการคันคล้ายลมพิษ และฉันมักจะคันหรือรู้สึกแสบร้อนด้วย เกิดจากการแพ้สารเคมีบางชนิดในครีมกันแดด เช่น น้ำหอม และพาราเบน
มีตุ่มขาวหรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นบนใบหน้า
บางคนอาจไม่เกิดผื่นขึ้น แต่มีตุ่มสีขาวหรือแดงเล็กๆ บนใบหน้า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนของการแพ้ครีมกันแดด สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันแร่หรือมีสารไขมันในปริมาณมากเกินไปจนอุดตันรูขุมขน และอาจเกิดเป็นรอยนูนเล็กๆ
ผิวไวต่อแสง
ในบางกรณีอาจไม่เกิดอาการแพ้อย่างโจ่งแจ้ง แต่ผิวหน้าไวต่อแสง โดยเฉพาะเมื่อโดนแสงแดดแรงๆ ผิวหน้าจะรู้สึกระคายเคือง แดง และไหม้เร็วกว่าปกติ และผิวหมองคล้ำได้ง่าย ซึ่งเกิดจากการแพ้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารที่เป็นกรด ส่งผลให้ผิวหนังบางลงและไวต่อแสงมากขึ้น
เราขอขอบคุณบทความดีๆ จาก : เช็ก 6 สัญญาณเตือนแพ้ครีมกันแดด และส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการแพ้
